ชะลอริ้วรอย รวมวิธีลดริ้วรอย แต่ละจุดแก้ไขอย่างไรดี

ริ้วรอย

ชะลอริ้วรอย

ชะลอริ้วรอย ปัญหาริ้วรอยสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน โดยเฉพาะเมื่ออายุมากขึ้น ผิวเกิดการสูญเสียคอลลาเจนและอีลาสติน ทำให้ขาดความชุ่มชื้น ผิวหน้าแห้ง ริ้วรอยจึงเกิดขึ้นได้ง่าย โดยเฉพาะรอยตีนกา ริ้วรอยรอบดวงตา ยิ่งหากไม่ได้รับการดูแลที่ดี ริ้วรอยก็ยิ่งมากและชัดขึ้นกว่าเดิม

ชะลอริ้วรอย รวมวิธีลดริ้วรอย แต่ละจุดแก้ไขอย่างไรดี

แน่นอนว่ามีวิธีลดริ้วรอยบนใบหน้าที่เห็นผลได้จริง และได้รับความนิยม คงหนีไม่พ้นการฉีดโบท็อก เพราะราคาไม่สูง สามารถลดริ้วรอยเร่งด่วนได้ และมีให้บริการแทบจะทุกคลินิกความงาม ช่วยลดริ้วรอยก่อนวัย ริ้วรอยระหว่างคิ้ว หรือ หางตา ให้กลับมาตึงกระชับ ดูอ่อนเยาว์ขึ้นได้

ริ้วรอย

ริ้วรอย คืออะไร ?

‘ริ้วรอย’ คือ หนึ่งในปัญหาผิวที่สามารถเกิดขึ้นได้เมื่ออายุมากขึ้น โดยสามารถเริ่มพบได้ตั้งในช่วงอายุ 25 ปีครับ หากสังเกตดี ๆ จะเริ่มเห็นริ้วรอยตื้น ๆ บนใบหน้า ในจุดที่มีการขยับบ่อย ๆ หากมีการแสดงสีหน้า

จากริ้วรอยตื้น ๆ จะสามารถพัฒนาให้เกิดริ้วรอยร่องลึกขึ้นได้และเพิ่มปริมาณมากขึ้น เมื่ออายุของเราเยอะขึ้นครับ เนื่องจากโครงสร้างผิวอ่อนแอลง เพราะกระบวนการทำงานเซลล์ผิวทำงานช้าลง เซลล์ผิวอุ้มน้ำน้อยลง ผลิตคอลลาเจนและอีลาสตินของเซลล์ผิวน้อยลง จนผิวขาดความชุ่มชื้น แห้งกร้าน ส่งผลให้ผิวขาดความแข็งแรง ผิวมีริ้วรอยง่ายขึ้น และเริ่มเกิดผิวหย่อนคล้อยตามมา

สาเหตุการเกิดริ้วรอยบนใบหน้า

  • อายุ : เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น ร่างกายจะผลิตสารสำคัญที่ช่วยให้ผิวหนังดูเต่งตึง ชุ่มชื้น อย่างอิลาสติน กรดไฮยาลูรอน หรือคอลลาเจน ลดน้อยลง ทำให้ความยืดหยุ่นของผิวหนังลดลง ส่งผลให้ผิวเริ่มหย่อนคล้อยและเกิดริ้วรอยเล็ก ๆ บนใบหน้า ที่สำคัญกรดไฮยาลูรอนมีผลต่อโครงสร้างผิว เมื่อมีจำนวนน้อยลง เซลล์ก็ไม่สามารถอุ้มเกาะน้ำไว้ในชั้นผิวได้ ทำให้ขาดความหนาแน่น และเกาะกันแน่น ผิวหนังจึงหย่อนคล้อย จากริ้วรอยที่เกิดขึ้นเล็ก ๆ ก็กลายเป็นริ้วรอยเหี่ยวย่นที่ลึกขึ้นครับ
  • การแสดงสีหน้าซ้ำ ๆ : Overacting ริ้วรอยจากการแสดงอารมณ์มากไปเป็นอีกหนึ่งสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดริ้วรอยบนใบหน้า การแสดงอารมณ์ทางสีหน้า ไม่ว่าจะเป็นการยิ้ม หัวเราะ การขมวดคิ้ว รวมถึงการขยี้ตาบ่อย ๆ ล้วนทำให้เกิด ริ้วรอยเกิดได้เร็วขึ้นโดยเฉพาะรอยระหว่างคิ้ว ร่องคิ้ว รอยย่นที่หน้าผาก เป็นต้น ซึ่งสามารถลดริ้วรอยแรกเริ่มเหล่านี้ได้ด้วยการฉีดโบท็อก

ริ้วรอย

ริ้วรอยมีกี่ประเภท ?

ริ้วรอยบนใบหน้าแบ่งออก 2 ประเภท คือ

  1. ริ้วรอยแบบตื้น : เกิดจากผิวหนังชั้นบนสุดมีความแห้ง ขาดน้ำ สาเหตุจากอายุที่มากขึ้น สภาพแวดล้อมที่อยู่เช่น อยู่ในสถานที่เย็น ๆ ในห้องปรับอากาศตลอดทั้งวันเป็นต้น
  2. ริ้วรอยย่นแบบลึก : สาเหตุจากการหดตัวของกล้ามเนื้อ ส่งผลให้หนังแท้กับหนังกำพร้าดึงเข้าหากัน เกิดเป็นรอยยับย่น มองเห็นเป็นร่องใหญ่ขึ้น พบได้มากในผู้มีผิวแห้งมาก ๆ และผิวมัน ประกอบกับเจ้าของใบหน้ามีพฤติกรรมที่การแสดงสีหน้าบ่อย ทั้งการขมวดคิ้ว เลิกหน้าผาก ก็ยิ่งทำให้เห็นริ้วรอยร่องลึกได้เร็วยิ่งขึ้น

ปัจจัยที่กระตุ้นให้ริ้วรอยลึกขึ้น

นอกจากสาเหตุที่กล่าวมข้างต้น “ริ้วรอย” ยังมีปัจจัยภายนอกอื่น ๆ ที่เป็นต้วกระตุ้นให้เกิดขึ้นก่อนวัยอันควรได้ เช่น

  • แสงแดด : แสงแดด หรือ “รังสีอัลตราไวโอเลต” ในแสงแดด ที่เป็นตัวการสำคัญทำให้ผิวเสื่อมสภาพ และเกิดริ้วรอยบนใบหน้า เนื่องจากเป็นตัวการสำคัญที่ทำร้ายโครงสร้างผิว จากการที่คอลลาเจนในผิวหนังถูกทำลาย ทำให้ผิวขาดความยืดหยุ่น โครงสร้างผิวอ่อนแอ เกิดริ้วรอยได้ง่ายกว่าผิวปกติ ทั้งยังก่อให้เกิดมะเร็งผิวหนังได้
  • แอลกอฮอล์ – บุหรี่ : สารอนุมูลอิสระทำลายโครงสร้างผิวหนังโดยตรง ทำให้ผิวมีอายุ รวมถึงทำให้เกิดริ้วรอยได้ง่ายขึ้นครับ เพราะสารนิโคตินและแอลกอฮออล์ มีส่วนทำให้คอลลาเจนในผิวเสื่อมสภาพลง ส่งผลให้ผิวแก่ก่อนวัย
  • ความแห้งของผิว : ซึ่งมาจากหลายสาเหตุ ทั้งการขัดถูกหน้าแรง ๆ สครับผิวหน้าบ่อยเกินไป ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะสมในการชำระล้างผิวหน้า ทำให้ผิวแห้ง ผิวขาดความชุ่มชื้น ผิวแห้งมักเกิดริ้วรอยได้ง่ายกว่าผิวที่ชุ่มชื้น
  • นอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ : สามารถทำให้เกิด ริ้วรอยบนใบหน้า รวมถึงใบหน้าหมองคล้ำ ไม่สดใส การนอนหลับพักผ่อนน้อยทำให้ร่างกายไม่สามารถซ่อมแซมตัวเองได้ ใครที่นอนดึก นอนน้อย จะส่งผลให้ผิวไม่เต่งตึง ขาดความยืดหยุ่น ผิวแห้งและเกิดริ้วรอยได้เร็วกว่าปกติ

ริ้วรอย

ตำแหน่งริ้วรอยบนในหน้าที่พบบ่อย

โดยปกติแล้วริ้วรอยมักจะเกิดขึ้นในบริเวณเฉพาะบนใบหน้า สามารถสังเกตได้ดังนี้

  • ริ้วรอยใต้ตา : ริ้วรอยรอบดวงตา ริ้วรอยหางตา หรือ ตีนกา เป็นจุดที่สังเกตเห็นได้ง่าย เพราะผิวหนังบริเวณรอบดวงตาบอบบางกว่าบริเวณอื่นบนใบหน้าและเกิดริ้วรอยได้ง่ายเช่นกัน โดยสามารถสังเกตเห็นได้เริ่มจากริ้วรอยบาง ๆ และตื้น ๆ ก่อน หากไม่รับดูแลรักษา ก็จะค่อย ๆ ลึกขึ้นเรื่อย ๆ ครับ
  • ริ้วรอยหน้าผาก : บริเวณหน้าผากและหว่างคิ้ว เป็นริ้วรอยที่มาจากการแสดงอารมณ์ทางสีหน้าเป็นใหญ่ เมื่อเวลาผ่านไปมักจะมีร่องลึกขึ้นเรื่อย ๆ รวมถึงบริเวณหน้าผากเป็นจุดที่กว้าง โดนแสง UV ได้มาก ในคนที่ไม่ทาครีมกันแดด และออกแดดบ่อย ริ้วรอยบริเวณหน้าผากจะเกิดขึ้นได้เร็วกว่าผู้อื่น
  • ริ้วรอยร่องแก้ม : เป็นอีกจุดที่พบได้ เกิดจากการแสดงสีหน้า เวลายิ้ม และความหย่อนคล้อยของผิว โดยส่วนใหญ่แล้วรอยย่นที่แก้มจะมีลักษณะเป็นร่องลึก เป็นเส้นยาวตั้งแต่บริเวณปีกจมูกโค้งลงมาถึงที่มุมปาก
  • ริ้วรอยขมวดคิ้ว : เป็นจุดที่เห็นได้ชัดเพราะอยู่ระหว่างกลางใบหน้าพอดี เกิดจากแสดงสีหน้า ในคนที่ชอบขมวดคิ้วบ่อย ๆ ก็จะยิ่งเห็นเด่นชัดขึ้น
  • ริ้วรอยที่คอ : เป็นริ้วรอยที่เกิดขึ้นได้บ่อย ไม่แพ้ริ้วรอยบนใบหน้าครับ เกิดจากผิวขาดความยืดหยุ่นและความหนาแน่นของผิวที่ลดลง

ริ้วรอย

วิธีลดริ้วรอยบนใบหน้า มีอะไรบ้าง

วิธีลดเลือนริ้วรอยบนใบหน้า สามารถรักษาได้หลายรูปแบบ ขึ้นอยู่กับลักษณะของปัญหา โดยวิธีที่ได้รับความนิยม ได้แก่

1. ทำทรีตเม้นต์ ลดริ้วรอย

การทรีตเมนต์หน้า เป็นวิธีการดูแลใบหน้าด้วยวิธีต่าง ๆ เช่น การผลัดผิวใหม่ การยกกระชับผิว ซึ่งวิธีการทำทรีตเมนต์ใบหน้าเพื่อลดริ้วรอยประเภทยกกระชับ ที่ช่วยยกกล้ามเนื้อใบหน้าให้กระชับเต่งตึงยิ่งขึ้นได้ เช่น การทำทรีตเมนต์หน้าด้วยคลื่นวิทยุ (Radiofrequency therapy) คือการใช้อุปกรณ์ปล่อยคลื่นวิทยุเข้าไปกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจน (Collagen) และอีลาสติน (Elastin) ในชั้นผิว ทำผิวหน้าดูกระชับขึ้น ริ้วรอยดูจางลง

2. นวดหน้าลดริ้วรอย

การนวดหน้าเพื่อลดริ้วรอย เป็นวิธีลดริ้วรอยแบบธรรมชาติ ที่ถูกพูดถึงเป็นอย่างมาก ซึ่งวิธีนี้จะช่วยทำให้เลือดมาเลี้ยงผิวหนังบริเวณใบหน้ามากยิ่งขึ้น แต่จะต้องทำเป็นประจำ ประมาณ 15 นาทีครับ ถึงจะช่วยทำให้ผิวเปล่งปลั่ง อัตราการเกิดริ้วรอยก็ลดน้อยลง แต่ข้อสำคัญคือ ต้องนวดให้ถูกวิธี หากใครต้องลดริ้วรอยก่อนวัย ด้วยวิธีนี้ หมอแนะนำให้ศึกษาวิธีนวดหน้าอย่างละเอียด ซึ่งปัจจุบันมีคลิปสอนการนวดหน้าจากหลายแหล่ง ควรเลือกศึกษาจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ

3. ลดริ้วรอยบนใบหน้าด้วยสับปะรด

การลดริ้วรอยบนใบหน้าด้วยสับปะรด เป็นวิธีที่ถูกแชร์และส่งต่อบนโลกโซเชียลค่อยข้างมาก หากถามว่าช่วยลดริ้วรอยได้เห็นผลจริงหรือไม่ ต้องบอกว่าขึ้นอยู่กับปัญหาและสภาพผิวของแต่ละบุคคล

การนำน้ำสับปะรดสด ๆ มาทาหรือชโลมพอกที่ใบหน้า ด้วยสรรพคุณของสับปะรดที่มีวิตามินซี ก็จะช่วยผลัดเซลล์ผิว จึงสามารถลดเลือนจุดด่างดำต่าง ๆ บนใบหน้า แต่ในเรื่องของริ้วรอยถ้าเป็นริ้วรอยเล็กๆ อาจช่วยได้บ้าง แต่เป็นริ้วรอยร่องลึกก็อาจไม่เห็นผลครับ และข้อสำคัญคือ สับปะรดอาจจะกัดผิวหน้า โดยเฉพาะคนที่ผิวแพ้ง่าย ทำให้หน้าแห้ง เกิดสิว เกิดริ้วรอยได้ง่ายกว่าเดิม

ริ้วรอย

4. ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว

การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวทั้งครีมหรือเซรั่มลดริ้วรอยที่มีส่วนผสมของ AHA, vitamin A acid, โคเอนไซม์ คิวเทน, วิตามินซี ,กรดไฮยาลูรอน จะช่วยลดริ้วรอยบนใบหน้า ยังสามารถฟื้นฟูผิวได้ลึกถึงต้นตอของสาเหตุ

รวมการทำ AHA treatment มีหลักฐานว่าสามารถช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วให้หลุดลอกออกไป ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้แก่ผิวสามารถกระตุ้นการสร้างสาร collagen และ elastin ในผิวหนัง เป็นการลดและชะลอการเกิดริ้วรอยได้ แต่การใช้ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ครับ

5. ลดริ้วรอยด้วยเลเซอร์

เป็นการใช้เครื่องมือเลเซอร์ที่มีคุณสมบัติกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนใหม่ เพื่อเป็นการช่วยลดริ้วรอยเหี่ยวย่นบนใบหน้า ได้แก่ Nd:YAG, Fractional laser และ IPL สามารถช่วยลดเลื่อนริ้วรอย รวมถึงจุดด่างดำบนใบหน้าได้ครับ วิธีรักษาริ้วรอยบนใบหน้าวิธีนี้ ค่อนข้างเห็นผลเร็ว แต่ต้องแรกมาด้วยความเจ็บ และอาจต้องใช้เวลาหลายเดือนกว่าผิวจะฟื้นฟู ลดเลี่ยงการออกแดด สักระยะ หรืออาจทำให้เกิดแผลหากเข้ารับการรักษาจากแพทย์ที่ไม่มีประสบการณ์

6. โบท็อก ลดริ้วรอย

การฉีด โบท็อก (Botulinum toxin A) เป็นเทรนด์เสริมความงามยอดนิยม คนในแวดวงด้านความสวยความงามรู้จัก และคุ้นเคยเป็นอย่างดีว่า ช่วยลดกราม ปรับรูปหน้าเรียวและลดริ้วรอยได้ครับ โดยการฉีดโบทูลินั่ม ท็อกซิน เอ ทำให้เกิดการคลายตัวของกล้ามเนื้อ ช่วยกระชับแก้มและลดเลือนริ้วรอยต่าง ๆ ให้จางหายไปได้

7. ฟิลเลอร์

นอกจากริ้วรอยเล็ก ๆ บนใบหน้าที่สามารถใช้โบท็อกและไฮฟู่ช่วยได้แล้ว ยังมีริ้วรอยที่เป็นร่องลึก เช่น ริ้วรอยร่องแก้ม ริ้วรอยร่องมุมปาก ร่องลึกใต้ตา ปัญหาเหล่านี้จะต้องใช้ฟิลเลอร์เข้ามาช่วยเติมเต็มครับ เพราะการแก้ด้วยโบท็อกหรือ Hifu อาจไม่เพียงพอ
ริ้วรอย

8. การฉีดเมโสหน้าใส

เมโสหน้าใส หรือ Mesotheraphy เป็นการฉีดวิตามินและสารสกัดที่มีประโยชน์เข้าสู่ผิวโดยตรง ออกฤทธิ์ไวขึ้น จากปกติอาจใช้เวลาเป็นเดือน ทำให้เริ่มเห็นผลได้ใน 1 อาทิตย์หลังฉีด เพื่อบำรุง ฟื้นฟูผิวที่เสื่อมสภาพและแก้ปัญหาต่างๆ บนผิวหน้า ทำให้ผิวชุ่มชื้น ขาวกระจ่างใส เสริมสร้างคอลลาเจน เพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิว ลดการอักเสบ ช่วยขับสารพิษที่สะสมและทำให้ผิวแข็งแรงขึ้น เป็นการลดและชะลอการเกิดริ้วรอยได้

9. Hifu

วิธีลดริ้วรอยด้วย Hifu  เป็นนวัตกรรมใหม่ ปัจจุบันเริ่มเป็นที่คุ้นเคยมากขึ้น โดยการทำงานของ Hifu จะไม่ต้องฉีดหรือใช้เข็ม ทำงานโดยใช้คลื่นอัลตร้าซาวด์ที่พัฒนามาจากการอัลตร้าซาวด์ดูครรภ์ทางการแพทย์ ยิงเข้าไปใต้ชั้นผิว เหมาะกับคนที่มีริ้วรอยเล็ก ๆ หรือกลัวเข็มมาก ช่วยลดเลือนริ้วรอย ความหย่อนคล้อยและเพิ่มความกระชับให้กับบริเวณผิวหน้า

ริ้วรอย

วิธีป้องกันการเกิดริ้วรอยบนในหน้า

  1. หลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยง : เช่น การนอนดึก ภาวะเครียด การสูบบุหรี่ การดื่มแอลกอฮอล์ สิ่งเหล่านี้ล้วนแต่เป็นสาเหตุสำคัญทำให้เกิดริ้วรอยและความเหี่ยวย่นที่มากยิ่งขึ้น
  2. ออกกำลังกายเป็นประจำ : การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้เลือดลมไหลเวียนดี ใบหน้าจึงดูเปล่งปลั่ง ช่วยลดการเกิดริ้วรอยต่าง ๆ ได้
  3. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ : โดยเฉพาะอาหารประเภทผักใบเขียว ผลไม้ หรืออาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินเอ วิตามินซี วิตามินอี ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ ทำให้เซลล์ไม่เสื่อมถอยเร็วช่วยทำให้ผิวสดใส เพิ่มความชุ่มชื้น ชะลอการเกิดริ้วรอยก่อนวัย
  4. นอกจากนี้ยังควรดื่มน้ำเปล่าอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว เพื่อช่วยบำรุงผิว น้ำเป็นส่วนประกอบหลักของร่างกาย การดื่มน้ำเพียงพอจะช่วยให้เซลล์ต่าง ๆ ทำงานได้ดีขึ้น ผิวชุ่มชื้น ไม่แห้งกร้าน จึงไม่ก่อให้เกิดริ้วรอยได้ง่าย ๆ
  1. วิตามินอาหารเสริม : ใครที่กลัวว่าจะได้สารอาหารจากอาหารที่รับประทานได้ไม่เพียงพอ การเลือกอาหารเสริมหรือวิตามิน ก็มีส่วนช่วยเสริมความแข็งแรงและฟื้นฟูสภาพผิว ปกป้องผิว และช่วยลดริ้วรอยเหี่ยวย่นได้ เช่น วิตามินซี,วิตามินอี, Zinc, คอลลาเจน, Grape Seed และ โคเอนไซม์ คิวเทน
  2. ทาครีมกันแดด : อย่างที่หมอบอกไว้ว่าแสงแดด เป็นตัวการสำคัญที่ทำร้ายโครงสร้างผิวโดยตรง ทำให้เกิดริ้วรอยต่าง ๆ ทุกจุดบนใบหน้า เพื่อปกป้องผิว และชะลอการเกิดริ้วรอยก่อนวัย ควรทาครีมกันแดดทุกครั้งไม่ว่าจะต้องออกจากบ้านหรือไม่ก็ตาม

ชะลอริ้วรอย

ริ้วรอย ริ้วรอย ริ้วรอย ริ้วรอย ริ้วรอย ริ้วรอย ริ้วรอย ริ้วรอย ริ้วรอย ริ้วรอย ริ้วรอย ริ้วรอย ริ้วรอย ริ้วรอย ริ้วรอย ริ้วรอย ริ้วรอย ริ้วรอย

หมอ

ประวัติหมอ

ดร.นพ.ธีรศักดิ์ แพทยาดิกุล
Dr.Teerasak Pattayadeekul

อาจารย์พิเศษ Dermatology and Regenerative medicine สำนักเวชศาสตรชะลอวัย ม.แม่ฟ้าหลวง / แพทย์ปริญญาเอก สาขา ผิวหนัง ศัลยกรรมผิวหนัง/เลเซอร์/ความงาม

  • Fellow in dermato surgery & LASER รามาธิบดี .
  • Vissiting fellow dermatology Juntendo Dermatology & Dermatopathology.
  • MD.Msc.Phd in Dermatology / LASER / Aesthetic Surgery.
  • Fellow in LASER surgey and Facial plastic surgery Fort Lauaderdel Florida USA
  • Diploma of Hair Transplantation by Thai association and Academy of Cosmetic surgery and medicine

พญ.ทวีพร ตรีประภากร
Dr.Thaweeporn Treepraphakorn

แพทย์สาขาศัลยกรรมความงาม/เลเซอร์/ปลูกผม
แพทย์ อเมริกันบอร์ดปลูกผม (ABHRS)

  • Fellowship in Cosmetic Surgery/ Korean college of Cosmetic Surgery
  • American Board of Hair Restoration Surgery/ABHRS
  • Certificate Hair transplantation By Korean Society of Hair Restoration Surgery/ISHRS
  • Member in association of Aesthetic Anti-aging Surgery,Thailand
  • Certificate Liposuction by Korean college of Cosmetic Surgery
  • Member of International Society of Hair Restoration Surgery

แพทย์ประจำคลินิก

Hair grow laser

Hair grow laser

“ลานนาวดีคลินิก” คลินิกศัลยกรรมตกแต่งความงาม โดยทีมศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ การันตีจบเฉพาะทางด้าน ศัลยกรรมความงาม (Cosmetic Surgery) จากเกาหลี และเทคโนโลยีอันทันสมัยครบวงจร เพื่อให้คุณได้สวยตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าอย่างมั่นใจในความปลอดภัยและผลลัพธ์หลังเข้ารับบริการ

ช่องทางการติดต่อ

ลานนาวดีคลินิกมี 4 สาขาใกล้บ้านท่าน

📍สาขาเชียงใหม่ แยกดอนจั่น 574 ถนน เชียงใหม่-ลำปาง ต.ท่าศาลา อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ Tel.053-230257 /062-3103797 /062-3103798

📍สาขาเชียงใหม่ ลานนาวดีคลินิก มีโชคพลาซ่า 206/17 ต.ฟ้าฮ่าม อ.เมือง จ.เชียงใหม่
Tel.053-230258 /062-3103799 /062-3103800

📍สาขากรุงเทพ สวทช.รังสิต
อาคาร Inc1 สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ 131 อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย ถ.พหลโยธิน ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี 12120 ชั้น3 ห้อง 307-308

📍สาขาพัทยา 194/5และ194/6 หมู่9 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง , Chon Buri, Thailand, Chon Buri

เวลาทำการ
จันทร์ – ศุกร์   10.00 – 19.30 น.
เสาร์ – อาทิตย์ 10.30 – 19.30 น.