ผ่าตัดเลเบียเชียงใหม่ กับลานนาวดีคลินิก
เป็นการผ่าตัดตกแต่งจุดซ่อนเร้น ที่ช่วยสร้างความมั่นใจให้กับผู้หญิง และยังลดปัญหาด้านสุขภาพ รวมทั้งมีข้อดีต่าง ๆ ดังนี้ ลดปัญหาการอักเสบของเลเบีย หรือแคมเล็ก ขณะมีรอบเดือน ลดและป้องกัน อาการเสียดสีเมื่อใส่เสื้อผ้ารัดรูป ชุดว่ายน้ำ ชุดออกกำลังกาย หรือเมื่อสวมใส่ชุดชั้นใน
การผ่าตัดเลเบีย คืออะไร?
ตกแต่งเลเบีย หรือ ตกแต่งแคมเล็ก คือ การผ่าตัดเพื่อปรับแต่งรูปร่าง และลดขนาดของ เลเบีย หรือ แคมเล็ก ซึ่งปัจจุบันได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจาก แคมเล็ก ของผู้หญิงหลายคนมีขนาดใหญ่ผิดปกติ หรือ มีขนาดไม่เท่ากัน แคมเล็กของผู้หญิงแต่ละคน มีขนาดความกว้างที่แตกต่างกัน มีขนาดตั้งแต่ขนาดที่เล็ก ที่ซ่อนอยู่ระหว่างแคมใหญ่ หรือมีขนาดที่ใหญ่มาก และมีขอบที่ยื่นพ้นออกมานอกแคมใหญ่
การผ่าเลเบีย เหมาะกับใคร?
การผ่าตัดเลเบียเหมาะกับสุภาพสตรีที่มีความไม่มั่นใจ หรือไม่พอใจในลักษณะ รูปร่าง หรือขนาดของแคมเล็ก หรือคนที่มีปัญหาเจ็บปวด ระคายเคืองแคมเล็กเมื่อแต่งตัว ใส่ชุดรัดรูป ออกกำลังกาย หรือเมื่อมีเพศสัมพันธ์ ซึ่งคนไข้ไม่จำเป็นต้องมีอายุมากหรือผ่านการมีเพศสัมพันธ์ก็อาจมีอาการดังกล่าวได้ MEDA
แคมเล็ก หรือ แคมใน (Labia Minora) คือ อะไร?
คือ กลีบผิวหนังสองกลีบที่อยู่ด้านในแคมใหญ่ล้อมรอบปากช่องคลอด มีขนาดเล็กและมีลักษณะอ่อนนุ่ม ปลายด้านบนจรดกันกลายเป็นผิวหนังคลุมปุ่มกระสันหรือคลิตอริส (Clitoris) ปลายด้านล่างจรดกันบริเวณฝีเย็บ ด้านในมีต่อมรับความรู้สึกและต่อมน้ำมันที่ช่วยในการหล่อลื่นจำนวนมาก มีเส้นประสาทและเลือดมาเลี้ยงจำนวนมาก ทำให้ผู้หญิงมีความสุขและถึงจุดสุดยอดในการมีเพศสัมพันธ์ ซึ่งในเเต่ละบุคคลจะมีสี ขนาดเเละลักษณะที่เเตกต่างกันออกไปทั้ง สีดำ สีแดง สีแดงคล้ำ และสีชมพูระเรื่อ สำหรับขนาดบางคนอาจเห็นเพียงสัน บางคนอาจมีขนาดเล็กจนหลบอยู่ข้างในแคมใหญ่ บางคนอาจมีขนาดใหญ่มาก เห็นเป็นกลีบเนื้อโผล่พ้นแคมใหญ่ออกมา ซึ่งพบได้บ่อยและเป็นภาวะปกติ โดยสาเหตุอาจมาจากพันธุกรรม เเละการตั้งครรภ์ หรือน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นมาก ซึ่งไม่มีอันตรายแต่อย่างใด
ข้อดีของการผ่าตัดตกแต่งเลเบีย
– หมดปัญหาน้องสาวยื่นย้วยดูไม่สวยงาม
– ลดอาการคันระคายเคืองที่น้องสาว
– ลดปัญหาความอับชื้น กลิ่นไม่พึ่งประสงค์
– ไม่เจ็บ ไม่เสียดสี ไม่แสบ ไม่กังวลอีกต่อไป
– เพิ่มความมั่นใจขณะมีเพศสัมพันธ์
– ลดความหมองคล้ำที่เกิดจากการเสียดสี
การผ่าตัดตกแต่งเลเบียแก้ปัญหาอะไรบ้าง?
1. เลเบียยื่น
ส่วนใหญ่ผู้หญิงที่มาผ่าตัดตกแต่งเลเบียมักจะประสบปัญหาเรื่องเลเบียยื่นยาวออกมานอกบริเวณแคมใหญ่ ทำให้รู้สึกว่ารูปร่างน้องสาวดูไม่สวย ซึ่งการผ่าตัดตกแต่งนี้จะเข้าไปช่วยให้เลเบียมีขนาดเล็กลงและเก็บทรงให้อยู่ในแคมใหญ่ไม่ยื่นออกมา
2. เลเบียมีขนาดไม่เท่ากัน
ถือว่าเป็นเรื่องปกติที่ผู้หญิงหลายคนจะประสบปัญหาเรื่องขนาดเลเบียที่ไม่เท่ากัน การผ่าตัดแก้ไขจะเป็นการเข้าไปช่วยให้เลเบียมีขนาดใกล้เคียงกันให้ได้มากที่สุด
3. เลเบียมีอาการอักเสบ
อาการอักเสบมักเกิดจากการที่เลเบียยื่นออกมาจากภายนอกแล้วเกิดการเสียดสี ทำให้รู้สึกเจ็บและเกิดแผลอักเสบได้ในบางเคส ซึ่งการผ่าตัดตกแต่งนี้จะเข้าไปช่วยให้ส่วนที่ยื่นออกมา เก็บให้เข้าที่ ไม่เสียดสีจนเกิดการอักเสบอีก
ใครไม่เหมาะกับการตกแต่งเลเบีย
– คุณแม่ตั้งครรภ์ หรือวางแผนมีบุตรใน 3 เดือน
– ผู้มีโรคประจำตัว เช่น ภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง โรคเบาหวาน โรคหัวใจ
การทำเลเบีย พักฟื้นนานไหม ?
หลังการผ่าตัดแคมยื่นหรือศัลยกรรมตกแต่งเลเบียเสร็จสิ้น อาจเกิดความเจ็บปวดหรือความตึงบริเวณแผลที่อวัยวะเพศในช่วง 2-3 วันแรก เนื่องจากกระบวนการผ่าตัดซึ่งเป็นธรรมชาติที่ร่างกายจะต้องปรับตัวกับการเจ็บปวดและการตึงบริเวณแผล สำหรับบางคนอาจมีความรู้สึกเจ็บปวดและความไม่สบายมากขึ้นในช่วงเริ่มต้นของการฟื้นตัว
การเตรียมตัวก่อนผ่าตัดตกแต่งเลเบีย
∘ แพทย์จะเริ่มต้นด้วยการสอบถามประวัติการรักษาและตรวจร่างกายเพื่อเตรียมตัวสำหรับการผ่าตัด
∘ หลังจากนั้น แพทย์จะทำการออกแบบแผนการผ่าตัดและประเมินรูปร่างของเลเบียเพื่อให้เข้ากับความต้องการของผู้รับบริการ
∘ การผ่าตัดจะใช้ยาชาเฉพาะในบริเวณรอบเลเบีย และผู้รับบริการสามารถเลือกการใช้ยาชาเฉพาะหรือดมยาสลบตามต้องการและคำแนะนำของแพทย์
∘ การผ่าตัดจะเน้นไปที่ส่วนที่มีปัญหาของเลเบียเท่านั้น และจะทำการตกแต่งให้มีรูปร่างเหมาะสม
∘ เมื่อผ่าตัดเสร็จสิ้น แพทย์จะใช้ไหมละลายในการเย็บแผลซึ่งจะละลายเอง และไม่จำเป็นต้องมีการผ่าตัดเพิ่มเติมในอนาคต
∘ การดำเนินการตกแต่งเลเบียมักใช้เวลาประมาณ 1 – 2 ชั่วโมง
∘ หลังจากผ่าตัดเสร็จสิ้น ผู้รับบริการจะได้รับการตรวจสอบอาการเป็นเวลา 1 – 2 ชั่วโมง และหากไม่มีอาการผิดปกติก็สามารถกลับบ้านได้
วิธีการดูแลตัวเองหลังทำผ่าตัดตกแต่งเลเบีย
1. แพทย์จะแนะนำให้คนไข้คุยกับคนรักให้ชัดเจนว่าแพทย์ให้งดการมีเพศสัมพันธ์อย่างน้อย 1-2 เดือนหลังผ่าตัดศัลยกรรมตกแต่ง เพื่อลดการอักเสบ และ แผลหายได้ไวขึ้น
2. ควรหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหรือออกแรงหนัก ๆ อย่างน้อย 1 เดือนหลังผ่าตัดครับ เนื่องจากแผลอาจเกิดการฉีกขาด และ ทำให้แผลหายช้ากว่าปกติ
3. งดการสูบบุหรี่ และ เลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์เพราะเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้แผลคนไข้หายช้า
4. สามารถอาบน้ำได้ตามปกติแต่ควรหลีกเลี่ยงบริเวณตำแหน่งที่ผ่าตัดมา และ ควรเช็ดทำความสะอาดให้เรียบร้อยทุกครั้ง
5. ทำความสะอาดบริเวณฝีเย็บ และ จุดซ่อนเร้นอย่างสม่ำเสมอ หลังปัสสาวะหรือขับถ่ายทุกครั้งโดยใช้น้ำเปล่าล้างแล้วซับเบาด้วยผ้าสะอาดให้แห้ง เพื่อไม่ให้แผลเกิดการอักเสบ
6. ควรรับประทานยาปฏิชีวนะ และ ปฎิบัตตามคำแนะนำที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัดเพื่อทำให้แผลหายได้รวดเร็ว พร้อมกลับมาใช้งานได้อีกครั้ง
7. หากพบอาการผิดปกติอย่างเช่น เลือดไหลไม่หยุดหรือรู้สึกเจ็บปวดบริเวณแผลผ่าตัดศัลยกรรมตกแต่งมาก ๆ แนะนำให้เข้าพบแพทย์ทันที
ดร.นพ.ธีรศักดิ์ แพทยาดิกุล
Dr.Teerasak Pattayadeekul
อาจารย์พิเศษ Dermatology and Regenerative medicine สำนักเวชศาสตรชะลอวัย ม.แม่ฟ้าหลวง / แพทย์ปริญญาเอก สาขา ผิวหนัง ศัลยกรรมผิวหนัง/เลเซอร์/ความงาม
- Fellow in dermato surgery & LASER รามาธิบดี .
- Vissiting fellow dermatology Juntendo Dermatology & Dermatopathology.
- MD.Msc.Phd in Dermatology / LASER / Aesthetic Surgery.
- Fellow in LASER surgey and Facial plastic surgery Fort Lauaderdel Florida USA
- Diploma of Hair Transplantation by Thai association and Academy of Cosmetic surgery and medicine
พญ.ทวีพร ตรีประภากร
Dr.Thaweeporn Treepraphakorn
แพทย์สาขาศัลยกรรมความงาม/เลเซอร์/ปลูกผม
แพทย์ อเมริกันบอร์ดปลูกผม (ABHRS)
- Fellowship in Cosmetic Surgery/ Korean college of Cosmetic Surgery
- Diplomate American Board of Hair Restoration Surgery/ABHRS
- International Board of Hair Restoration Surgery/ IBHRS
- Certificate Hair transplantation By Korean Society of Hair Restoration Surgery
- Member in association of Aesthetic Anti-aging Surgery,Thailand
- Member of International Society of Hair Restoration Surgery (ISHRS)
- Certificate Liposuction by Korean college of Cosmetic Surgery
- Master degree in Dermatology (MSc)
