การร้อยไหมเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยปรับรูปหน้าให้ใบหน้าเรียวขึ้น แก้ปัญหาแก้มที่หย่อนคล้อยให้กลับมายกกระชับ เต่งตึงตามเดิม
ร้อยไหม คือ เทคนิคที่นำมาใช้ช่วยยกกระชับ ฟื้นฟูสภาพผิว ลดเลือนริ้วรอยและปรับรูปหน้าให้ดูเรียว ด้วยไหมละลายโดยไม่ต้องผ่าตัด ซึ่งมีต้นกำเนิดมาจากประเทศเกาหลี หลักการของเทคนิคนี้ คือ การใช้ไหมเส้นเล็กจำนวนมากมาร้อยเป็นเครือข่าย บริเวณใต้ผิวหนังที่ร้อยไหมเข้าไปจะถูกกระตุ้นให้เกิดการอักเสบ ทำให้เกิดการสร้างเส้นเลือดใหม่ มีผลทำให้เกิดการกระตุ้นเซลล์ที่มีหน้าที่สร้างเส้นใยคอลลาเจน ให้สร้างคอลลาเจนใหม่มาพันรอบแนวเส้นไหม มีผลให้เกิดการดึงรั้งผิวหน้า ทำให้ผิวหน้าเต่งตึงและกระชับ พร้อมทั้งช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตมาเลี้ยงชั้นผิวหนังเพิ่มขึ้นด้วย
การร้อยไหมเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยปรับรูปหน้าให้ใบหน้าเรียวขึ้น แก้ปัญหาแก้มที่หย่อนคล้อยให้กลับมายกกระชับ เต่งตึงตามเดิม
“แล้วใบหน้าเราเนี่ยร้อยไหมได้มั้ยนะ ??” วันนี้เดี๋ยวเรามาไขข้อข้องใจกันค่ะว่าการร้อยไหมนี้เหมาะกับใครบ้าง
.
1. มีความต้องการปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้นเรียกว่าตรงไหนไม่กระชับ ร้อยไหมช่วยได้หมดหน้าหย่อนก็ดึงให้ตึงเรียวและยังช่วยให้หน้าสมมาตรเข้ารูปกันด้วยค่ะ
.
2. เป็นผู้มีผิวหน้าหย่อนคล้อย ไม่กระชับการร้อยไหมนอกจากมีเงี่ยงไหมช่วยยกใบหน้าแล้วยังช่วยกระตุ้นการสร้างเส้นใยอิลาสตินให้ผิวมีความเต่งตึง กระชับขึ้นอีกทางค่ะ
.
3. มีความต้องการเก็บเหนียงใต้คางโดยเงี่ยงไหมจะช่วยยกเหนียงที่หย่อนคล้อยขึ้นและเก็บส่วนเกินใต้คางให้กระชับสวยเข้ารูปค่ะ
.
4. อยากหน้ากระชับ แต่ไม่ต้องการผ่าตัดการร้อยไหมคุณหมอเพียงร้อยเส้นไหมที่เล็กมากเข้าไปให้เงี่ยงไหมยกกระชับใบหน้า ใช้เวลาไม่นานจึงไม่ต้องพักฟื้น สามารถทำกิจวัตรประจำวันต่อได้เลยค่ะ
ลานนาวดีเชียงใหม่ มีบริการร้อยไหม เพื่อยกกระชับใบหน้า ปรับรูปหน้า ด้วยไหมคุณภาพ หลากหลายชนิด
การยกกระชับใบหน้ารูปแบบหนึ่งนั้นคือ การร้อยไหมเพื่อดึงหน้าเป็นกรรมวิธีที่ได้ผลอย่างดี เห็นผลได้รวดเร็ว ซึ่งไหมที่ใช้นั้นมีหลายชนะ หลายประเภท ไหมทั่วไปจะคงอยู่ประมาณ 6-8 เดือน
สำหรับไหมที่ใช้เป็นไหมชนิด Polydioxanone (PDO) ซึ่งเป็นไหมละลาย ที่ใช้ในการเย็บผนังเส้นเลือดหัวใจ ซึ่งมีโอกาสแพ้น้อยมาก ไม่มีผลปฏิกิริยาต่อผิวหนัง ไหมละลายที่นำมาร้อยกระชับผิวนี้ จะค่อยๆ ละลายไปภายใน 6-8 เดือน ไม่เหลือตกค้างให้เกิดผลข้างเคียงภายหลัง
เมื่อไหมเข้าสู่ชั้นผิวหนัง จะทำให้เกิดการอักเสบเล็กๆ ของผิวหนังที่ร้อยไหมเข้าไป จึงกระตุ้นการสร้างเส้นเลือดใหม่ (Local microcirculation) ทำให้ผิวเกิดการไหลเวียนเลือดที่ดีขึ้น ผิวหน้าจึงแลดูเปล่งปลั่งสดใสขึ้นภายใน 2-3 สัปดาห์ และ มีผลให้เกิดกระบวนการสร้างคอลลาเจนรอบๆ เส้นไหม จึงเกิดการยกกระชับมากขึ้น
ผลการร้อยไหม ดึงหน้า ถือว่าลดเลือนริ้วรอยได้ชัดเจนทันที แก้ไขความหย่อนคล้อยบริเวณคอ ใบหน้า หางตา หัวคิ้ว หน้าผาก ริ้วรอยเล็กๆ ใต้ตา ที่โบทอกซ์หรือฟิลเลอร์ เลเซอร์ ไม่อาจจะแก้ไขได้หมด แถมอยู่ได้ยาวนานกว่า มากสูงสุดถึง 2 ปี
ไหม PDO ที่เราใช้ เป็นไหมละลาย ซึ่งร่างกายจะค่อยๆกำจัดออกไปจนหมด ภายในระยะเวลา 6 เดือน ซึ่งแตกต่างจากไหมยกกระชับใบหน้าชนิดอื่นในสมัยก่อน อย่างไหมแอปทอส(Aptos) ซึ่งมีลักษณะเป็นฟันปลาเป็นไหมชนิดไม่ละลายหลังทำมักพบรอยช้ำนาน และต้องอาศัยแพทย์ที่มีประสบการณ์สูง หากทำผิดวิธีทำให้ใบหน้าสมดุลต้องมาผ่าตัด เพื่อเอาไหมออกไปก่อนร้อยใหม่ นอกจากนี้ยังไม่สามารถร้อยบริเวณลำตัวได้ ขณะที่ไหมทอง (Gold Thread) ซึ่ง ประกอบด้วยทองคำบริสุทธิ์มีโลหะเป็นองค์ประกอบเป็นไหมชนิดที่ไม่ละลาย ข้อดี คือค่าใช้จ่ายสูงมากและต้องดูแลตัวเองเป็นพิเศษ เพราะไม่สามารถทำเลเซอร์ หรือนวดหน้าด้วยคลื่นวิทยุได้เหมือนคนทั่วไปเพราะอาจทำให้ไหมทองดูดซับความ ร้อนและขาดในผิวได้ นอกจากนี้บางรายอาจเกิดอาการแพ้ทองคำบริสุทธิ์ที่เป็นองค์ประกอบอยู่ได้ หากเกิดปัญหาต้องมาผ่าตัดเพื่อเอาไหมออกไปเช่นกัน และยังไม่สามารถนำมาร้อยกระชับผิวบริเวณลำตัวได้เช่นกัน ไหม PDO จัดว่าเป็นละลายชนิดเดียวที่มีความปลอดภัย และประสิทธิภาพสูงกว่าไหมละลายชนิดอื่นอย่างไหมละลาย Catgut ซึ่งมักพบรอยช้ำแดงได้นานกว่าถึง 20 วันหรือไหมละลาย PGA (Polygicolic Acid) หรือไหมละลาย Polygicolic ซึ่งมีโอกาสติดเชื้อได้ง่ายกว่า 60 – 90 วัน หลังร้อย เนื่องจากไหมชนิดนี้จะมีรูพรุนอยู่มากทำให้เกิดการติดเชื้อได้ง่ายกว่า และละลายหายเร็วภายใย 3เดือนทำให้ประสิทธิภาพในการกระตุ้นให้เกิดผังผืดหรือเส้นใยที่ดึงรั้งผิวเกิดเพียงช่วงสั้นๆเท่านั้น ขณะที่ไหม PDO จะคงอยู่ได้นาน 1-3 ปี
1. งดรับประทานยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด น้ำมันตับปลา วิตามิน อาหารเสริมต่างๆ 1-2 สัปดาห์
2. หลังทำหลีกเลี่ยงสัมผัสน้ำบริเวณที่รักษา 2-3 วัน
3. งดทำการนวด ทำทรีทเม้นท์ เลเซอร์ บริเวณที่ร้อยไหม 2 สัปดาห์
4. นัดพบแพทย์หลังรักษา 1 เดือนเพื่อประเมินผลการรักษา
5. ประคบเย็นลดบวม ควรประคบเย็นหลังทำเสร็จทันที และบ่อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ในระยะเวลา 48 ชั่วโมงนับจากที่ทำเสร็จเพื่อเป็นการลดอาการบวมช้ำ
6. งดอาหารบางประเภท เช่นของหมักดอง หรือของสด ควรรับประทานอาหารอ่อนๆ และควรงดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ และบุหรี่ด้วย
7. งดเว้นการนอนตะแคงหรือนอนคว่ำ ที่ทำให้แผลถูกกดทับ ซึ่งอาจจะทำให้แผลติดเชื้อได้
8. งดการสัมผัสใบหน้าโดยตรง เนื่องจากใบหน้ายังมีแผลเล็กๆอยู่ หากสัมผัสใบหน้าก็อาจจะทำให้เชื้อโรคเข้าสู่บาทแผลได้ ดั้งนั้นควรงดสัมผัส ลูบคลำใบหน้าไปสักระยะ
9. ไม่ดึงไหมด้วยตนเอง หากพบว่ามีไหมโผล่ เห็นปมไหม ไม่ควรดึงด้วยตนเอง ควรไปพบแพทย์เพื่อให้แพทย์จัดการให้
10. หากมีอาการผิดปกติ อักเสบหรือบวม ควรไปพบแพทย์ทันทีไม่จำเป็นต้องรอถึงเวลานัด
ร้อยไหม ดึงหน้า เพื่อผิวอ่อนเยาว์ ความสวยงามของผิวพรรณ ผิวที่ดูอ่อนเยาว์ เป็นความใฝ่ฝันของทุกคนก็ว่าได้ เราทุกคนต้องการให้ตัวเองดูดีอยู่เสมอ เทคโนโลยีด้านความงาม จึงมีการพัฒนากันอย่างต่อเนื่องไม่หยุดยั้ง โดยเฉพาะนวัตกรรมชะลอวัย หนึ่งในนวัตกรรมเหล่านั้น ที่เราจะพุดถึง ก็คือ Ultra V lifting หรือ เทคนิคร้อยไหม ดึงหน้า
ก่อนที่จะรู้ว่า เทคนิคร้อยไหม ดึงหน้า คือ อะไร แล้วเขาทำกันอย่างไร เรามารู้ถึงวิวัฒนาการของวิธีการยกกระชับผิวหน้า ลดเลือนริ้วรอยกันก่อนนะคะ
กรรมวิธีในการยกกระชับ โดยเฉพาะใบหน้า ได้มีวิวัฒนาการกันมาเรื่อยๆ เริ่มตั้งแต่ยุคแรกๆ ก็เป็นการผ่าตัดยกกระชับ ต่อมาก็มีการยกกระชับด้วยใช้คลื่น RF เช่น Thermage , Athron แล้วก็มาถึงกลุ่มการใช้คลื่นเสียง ( Focused Ultrasound) เช่น Ulthera
การยกกระชับด้วยการใช้เส้นไหม ก็จัดเป็นการยกกระชับอีกรูปแบบหนึ่งที่มีการทำมาหลายปี โดยเริ่มแรก อาจจะเป็นการยกกระชับด้วย ไหม Aptos Threads เป็นไหม ที่มีฟันปลาเล็กๆ อยู่ตลอดเส้นเพื่อดึงรั้งเนื้อใต้ผิวหนังให้ตึงขึ้น จัดเป็นกลุ่มเส้นไหมที่ไม่ละลาย เข็มที่ใช้มีขนาดใหญ่ ขณะทำจะเจ็บมาก มีรอยฟกช้ำมากหลังทำ และมักจะเกิดปัญหาในระยะยาวได้ เช่นนานๆ ไป พบแง่งไหมอาจจะโผล่ออกมาจากผิวหนังให้เห็นต้องไปผ่าออก หรือ เมื่อเงี่ยง หรือ ฟันปลาหลุดออกเมื่ออายุมากขึ้น ก็ทำให้ไหมไมได้ผลตามต้องการ ต่อมาก็มี การยกกระชับด้วย ไหมทองคำ(Gold Thread) แม้จะมีข้อดีที่เกิดรอยช้ำหลังทำน้อยกว่า แต่มีข้อเสียที่มีค่าใช้จ่ายสูงมาก และ ทำได้เฉพาะบางที่บางบริเวณ เช่น ใบหน้า คอ แขนเท่านั้น หลังทำต้องเลี่ยงการสัมผัสความร้อนหรือทำทรีทเม้นต์ต่างๆ ที่ใบหน้า การร้อยเส้นไหมทองคำถ้าผิดพลาด ต้องผ่าตัดเอาไหมออก และอาจจะมีปัญหาสำหรับผู้ที่แพ้โลหะ เป็นต้น
ไหม ที่ใช้ เป็น ไหมชนิด Polydioxanone (PDO) ซึ่งเป็น ไหมละลาย ที่ใช้ในการเย็บผนังเส้นเลือดหัวใจ ซึ่งมีโอกาสแพ้น้อยมาก ไม่มีผลปฏิกิริยาต่อผิวหนัง ไหมละลายที่นำมาร้อยกระชับผิวนี้ จะค่อยๆ ละลายไปภายใน 6-8 เดือน ไม่เหลือตกค้างให้เกิดผลข้างเคียงภายหลัง
Fine Thread Lifting (FTL) หรือ Ultra V Lift นอกจากจะเห็นผลทันทีหลังทำแล้ว เนื่องจาก ไหมละลาย มีกลไกการออกฤทธิ์หลังจาก การร้อยไหม เข้าสู่ชั้นผิวหนัง คือ ไหม จะช่วยกระตุ้นให้เกิดการหดตัวของคอลลาเจนใต้ผิว ทำให้ผิวเกิดการกระชับตึงขึ้นในทันทีที่ทำ และยังพบผลดีต่อเนื่องได้อีก คือ ขณะที่ไหมละลายอยู่ใต้ผิวหนัง จะทำให้เกิดการอักเสบของผิวหนังที่ร้อยไหมเข้าไป จึงกระตุ้นการสร้างเส้นเลือดใหม่ (Local microcirculation) ทำให้ผิวเกิดการไหลเวียนเลือดที่ดีขึ้น ผิวหน้าจึงแลดูเปล่งปลั่งสดใสขึ้นภายใน 2-3 สัปดาห์ และ มีผลให้เกิดกระบวนการสร้างคอลลาเจนรอบๆ เส้นไหม จึงเกิดการยกกระชับมากขึ้น เมื่อเวลาผ่านไป ซึ่งหลังจากไหมสลายตัวหมด โครงสร้างคอลลาเจนที่เกิดขึ้นจะเป็นตัวค้ำจุนผิวดังโครงสร้างเส้นใย ทำให้กระชับและเต่งตึงต่อไป ผิวหน้าจะยิ่งดีขึ้น กระชับขึ้นเรื่อยๆ และได้ผลต่อเนื่องนานถึง 12-18 เดือน
ผลข้างเคียงปกติที่เกิดขึ้นได้
1.มีอาการบวม หรือเขียวช้ำ แต่จะค่อยๆ ดีขึ้นและหายไปเองใน 7 – 14 วัน
2.ขณะทำจะรู้สึกถึงเส้นไหมที่ถูกร้อยเข้าไปบนใบหน้า
3.อาจมีเลือดออกบริเวณที่แทงเข็มเข้าไป
สำหรับผลข้างเคียงที่อันตราย เช่น ไหมทะลุ ไหมขาด เกิดการอักเสบของเนื้อเยื่อ ติดเชื้อ ผลข้างเคียงเหล่านี้มักจะเกิดจากการร้อยไหมกับหมอเถื่อน คลินิกเถื่อน ไม่ได้ใช้ไหมที่ปลอดภัย ดังนั้นก่อนตัดสินใจ ร้อยไหม ควรพิถีพิถันในการเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐานและหมอที่มีประสบการณ์เท่านั้นครับ
1.เส้นใยดังกล่าว ถ้าอยู่ในแนวที่ถูกต้อง และชั้นผิวที่เหมาะสม ก็จะสามารถช่วยประคองผิว กระชับผิว คล้ายๆ เส้นเอ็นที่อยู่บนใบหน้าตามธรรมชาติ
2.เงี่ยงไหมที่คล้ายตะขอจะเกี่ยวดึงผิวขึ้นได้ทันที หลังร้อยไหมเห็นผลได้ทันที
3.ไหมละลายในปัจจุบัน ไม่มีส่วนผสมของโลหะ สามารถละลายได้หมด 100% ตามระยะเวลา โดยไม่มีสารตกค้าง จะเหลือเพียงเส้นใย elastin ที่ร่างกายเราสร้างขึ้นมาซึ่งช่วยประคองผิว
4.ร้อยไหมกับแพทย์ที่มีความชำนาญ และร้อยด้วยเทคนิคที่ถูกต้อง ก็จะลดความเสี่ยงในการบวมช้ำลงได้มาก
1.หากเป็นไหมยุคโบราณ ที่มีส่วนผสมของโลหะ เช่นทองคำ โลหะจะดูดความร้อนจากการทำ X-ray, MRI, เครื่องสแกนต่างๆ และจะทำให้ผิวไหม้ได้
2.ในการร้อยไหม มีความเสี่ยงที่จะเกิดการบวมช้ำหลังทำค่อนข้างสูง ทั้งจากการฉีดยาชา และเลือดที่ออกใต้ผิวหนัง ถึงแม้หลังทำทันทีจะบวมน้อย แต่ก็อาจจะบวมมากขึ้นในช่วง 3-4 วันแรก ซึ่งส่วนมากก็จะหายได้เองภายใน 7-14 วัน
– ร้อยไหม เหมาะสำหรับคนที่แก้มหย่อนมากๆ จะเห็นผลได้ชัดเจน โดยที่ราคาไม่แพง
– ฟิลเลอร์ เหมาะสำหรับคนที่หน้าหย่อนคล้อยจากร่องใต้ตาร่องแก้มที่ลึก
– โบท็อก สำหรับคนที่มีกล้ามเนื้อกรามเยอะ(กัดฟันแล้วกรามเด้งเยอะ) ร่วมกับมีริ้วรอยบริเวณหางตา-หน้าผาก
|
– คุณหมอ เป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ สาขาผิวหนัง/ศัลยกรรมความงาม/ Laser
Certification จากอเมริกา และ เกาหลี
– ประสบการ์ณด้านศัลยกรรมความงาม/ปรับรูปหน้า กว่า 16 ปี
– ลานนาวดีคลินิกตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้าได้มาตรฐาน สะอาด และปลอดภัย
– เราให้บริการดูแลปรึกษาในเรื่องความงาม และแก้ไขปรับรูปหน้า เพื่อเพิ่มความมั่นใจ ทุกสัดส่วนแก้ปัญหาได้ตรงจุด
– ลานนาวดีคลินิก มีเจ้าหน้าที่คอยดูแล ติดตามผลก่อนทำ/หลังทำ ทุกครั้ง มั่นใจได้ว่าเมื่อรับบริการกับเราจะได้รับการใส่ใจ ดูแลเป็นอย่างดี
*ผลลัพธ์อาจเปลี่ยนแปลงไปในแต่ละบุคคล
*ผลลัพธ์อาจเปลี่ยนแปลงไปในแต่ละบุคคล
“ลานนาวดีคลินิก” คลินิกศัลยกรรมตกแต่งความงาม โดยทีมศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ การันตีจบเฉพาะทางด้าน ศัลยกรรมความงาม (Cosmetic Surgery) จากอเมริกาและเกาหลี เทคโนโลยีอันทันสมัยครบวงจร เพื่อให้คุณได้สวยตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าอย่างมั่นใจในความปลอดภัยและผลลัพธ์หลังเข้ารับบริการ
สนใจปรึกษาเพิ่มเติม ลานนาวดีคลินิก
โครงการมีโชคพลาซ่า เชียงใหม่
เปิดทุกวัน จ-ศ 10.00 – 19.30 น. ส-อา 10.30 – 19.30 น.
โทร 053-230258
Line id: @lannawadee
IG: lannawadee_clinic
FACEBOOK: Lannawadee Clinic