อาหารช่วยต้านริ้วรอย

อาหารมีความสำคัญต่อร่างกายในทุกส่วน การเลือกกินอาหารบำรุงผิวจึงช่วยให้ผิวมีสุขภาพแข็งแรง เนียนนุ่ม ชะลอการเกิดริ้วรอย ผิวดูอ่อนเยาว์กว่าวัย และทำให้สุขภาพดีจากภายในสู่ภายนอกได้ เพราะอาหารมีวิตามิน แร่ธาตุ และสารอาหารต่างๆ ที่จำเป็นต่อร่างกายและผิวพรรณ ถ้าหากอายุมากขึ้นแล้วรู้สึกผิวสุขภาพแย่ลงอาจต้องเสริมด้วยอาหารผิวที่ดี จะมีอะไรบ้างไปดูกัน

ผิวสุขภาพดีเป็นอย่างไร?

ผิวสุขภาพดี คือ ลักษณะของสีผิวที่สม่ำเสมอเท่ากัน ไม่มีจุดด่างดำ หรือรอยดำ ผิวเรียบเนียน ไม่มีปัญหาสิว ผดผื่น ระคายเคืองง่าย เมื่อสัมผัสจะรู้สึกถึงความเนียนนุ่ม ผิวกระชับเต่งตึง ชุ่มชื้น ฉ่ำน้ำ ไม่แห้งกร้าน หรือเป็นขุย โดยเราสามารถดูแลผิวให้มีสุขภาพดีได้ตามธรรมชาติหลายวิธี ทั้งหลีกเลี่ยงพฤติกรรมต่างๆ ที่ทำร้ายผิว ใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยน และเหมาะสมกับสภาพผิวของตัวเอง ใช้ผลิตภัณฑ์กันแดดเป็นประจำ และอีกหนึ่งวิธีสำคัญที่จะช่วยให้ผิวสุขภาพดีก็คือ อาหาร การกินอาหารบำรุงผิวจะช่วยให้สุขภาพผิวแข็งแรงจากภายในสู่ภายนอกนั่นเอง

สารอาหารและวิตามินที่ช่วยบำรุงผิว และริ้วรอย

1. โปรตีน คือ หนึ่งในอาหารหลัก 5 หมู่ ซึ่งมีส่วนช่วยสร้างคอลลาเจนให้กับผิว เป็นสารอาหารบำรุงผิวชะลอวัย เนื่องจากผิวหนังคนเรามีส่วนประกอบหลักเป็นเส้นใยโปรตีน โปรตีนจะทำให้ผิวยืดหยุ่นได้ดี มีความแข็งแรง พบได้มากในอาหารประเภทเนื้อสัตว์ และผลิตภัณฑ์จากสัตว์ เช่น เนื้อไก่ เนื้อวัว อาหารทะเล นม ไข่ และพบในถั่วธัญพืชต่างๆ เช่น อัลมอนด์ วอลนัท เมล็ดทานตะวัน ถั่วเหลือง ถั่วลิสง เมล็ดฟักทอง และงา
2.วิตามินเอ นอกจากเป็นวิตามินที่บำรุงสายตาแล้ว ยังเป็นสารอาหารบำรุงผิวอีกด้วย เพราะเป็นวิตามินที่ช่วยในการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวยืดหยุ่นดี ลดริ้วรอย ช่วยซ่อมแซมเซลล์ผิว ปกป้องผิวจากรังสียูวี และมลภาวะต่างๆ วิตามินเอพบมากในฟักทอง แครอท ผักโขม มะเขือเทศ อะโวคาโด ผักใบเขียว เนื้อวัว ปลา กุ้ง ไข่ และนม
3. วิตามินซี เป็นวิตามินที่มีส่วนช่วยสร้างคอลลาเจน เร่งการสร้างเซลล์ผิวใหม่ เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ทำความเสียหายให้กับผิว จึงช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยได้ดี โดยวิตามินซีพบได้มากในผลไม้ตระกูลเบอร์รี ส้ม มะนาว เลมอน ทับทิม มะขามป้อม ฝรั่ง สับปะรด แครอท บรอกโคลี และพริกหวาน
4. วิตามินอี เป็นอีกหนึ่งวิตามินที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ให้ความชุ่มชื้น และปกป้องเซลล์ผิวจากรังสียูวี วิตามินอีพบได้ในน้ำมันรำข้าว ถั่ว งา บรอกโคลี กีวี่ ปวยเล้ง และอัลมอนด์
5. โอเมก้า 3 เป็นกรดไขมันไม่อิ่มตัวชนิดดี ซึ่งเป็นกรดไขมันที่จำเป็นต่อร่างกาย และเป็นอาหารผิว ช่วยให้ผิวหนังแข็งแรง มีความชุ่มชื้น ช่วยปกป้องผิว และลดการอักเสบของผิวหนังเมื่อโดนรังสียูวีจากแสงแดด โอเมก้า 3 พบได้มากในปลาชนิดต่างๆ เช่น ปลาแซลมอน ปลาเทราต์ ปลากะพง ปลานิล ปลาทูน่า และปลาแมกเคอเรล และยังพบได้ในอะโวคาโด ถั่ว ธัญพืชชนิดต่างๆ น้ำมันถั่วเหลือง และสาหร่าย

นอกจากการพึ่งเทคโลโลยีทางการแพทย์แล้ว มีวิธีใด ที่ชะลอริ้วรอยแห่งวัยได้และอาหารสามารถช่วยชะลอริ้วรอยได้ จริงมั้ย?

การเสื่อมตามวัยของผิวพรรณ (Skin Aging) มี 2 กระบวนการด้วยกัน กระบวนการแรกเป็นการเสื่อมตามธรรมชาิต เรียกว่า “เสื่อมจากภายใน” (Intrinsic Aging) ซึ่งเริ่มต้นอย่างช้าๆ ในช่วงอายุ 20 กว่าๆ โดยเปลี่ยนไปตามภาวะยีนและฮอร์โมนของแต่ละคน

กระบวนการที่สองคือ “เสื่อมจากภายนอก” (Extrinsic Aging) เป็นผลกระทบต่อผิว อันเนื่องมาจากปัจจัยทางสภาพแวดล้อมต่างๆ เช่น แสงแดด ซึ่งเร่งกระบวนการเสื่อมของผิวได้มากและทำให้ผิวเราดูแก่เกินวัยที่แท้จริง

แม้ว่าการชะลอภาวะเสื่อมของผิวจะทำได้ยาก แต่เราก็สามารถควบคุมกระบวนการเสื่อมจากภายนอกได้ด้วยการเลือกสิ่งที่ดีต่อสุขภาพ ร่วมกับการใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวและผลิตภัณฑ์กันแดดที่เหมาะสมกับสภาพเขตร้อน สิ่งเหล่านี้จะมีประสิทธิภาพเสริมความต้านทานของผิวต่อปัจจัยภายนอก และสามารถชะลอกระบวนการเสื่อมของผิวจากภายนอกได้

อาหาร ชะลอริ้วรอยแห่งวัย

แนะนำให้รับประทานอาหาร Whole Foods ที่ไม่มีการปรุงแต่ง ตัดแต่งพันธุกรรม หรือเปลี่ยนแปลงจากสภาพธรรมชาติ เช่น อาหารสไตล์เมดิเตอร์เรเนียน อาหารโอกินาวา ที่ประกอบด้วยผัก ผลไม้ ธัญพืช นมไขมันต่ำ โปรตีนไขมันต่ำ ซึ่งช่วยต่อสู้กับการอักเสบของเซลล์และทำให้เราดูดีอยู่เสมอ

เคล็ดลับการกินอาหารที่ช่วยให้ดูดีเสมอ

• กินน้ำตาลไม่เกิน 4-6 ช้อนชาต่อวัน (คนไทยบริโภคน้ำตาลมากถึง 23 ช้อนชาต่อวัน)
• กินไขมันไม่อิ่มตัวไม่เกิน 2 กรัมต่อวัน และเลี่ยงอาหารทอด ที่ใช้น้ำมันท่วม
• หลีกเลี่ยงเค๊ก ขนมอบ
• กินตามามินรวมและเกลือแร่ที่มีคุณภาพ รวมถึงสารแอนติออกซิแดนต์ที่ไม่มีในอาหารที่กินในแต่ละวัน
• ดื่มน้ำสะอาด
• กินคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนแทนอาหารแปรรูป เช่น ข้าวกล้อง ขนมปังโฮลวีต ธัญพืช เผืิอก มัน ฯลฯ

อาหารบำรุงผิวมีหลากหลายชนิดให้เลือกรับประทาน เนื่องจากมีสารอาหารที่ช่วยบำรุงผิวพรรณให้แข็งแรง อ่อนเยาว์ นุ่มชุ่มชื้น ดูสุขภาพดี จะมีอาหารอะไรบ้างที่ช่วยให้ผิวสวยจากภายในสู่ภายนอก ไปดูกัน

ปลาที่มีไขมันดี

ปลาที่มีไขมันดี เช่น ปลาแซลมอน ปลาแมกเคอเรล ปลาทูน่า ปลาซาร์ดีน และปลาแฮร์ริ่ง นับว่าเป็นอาหารบำรุงผิวพรรณให้สวยสุขภาพดี เนื่องจากอุดมไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า 3 วิตามินอี โปรตีนคุณภาพสูง และสังกะสี ซึ่งเป็นสารอาหารที่มีความจำเป็นสำหรับผิวหนัง ช่วยให้ผิวแข็งแรง เนียนนุ่ม ชุ่มชื้น ลดการอักเสบของผิวหนัง ช่วยผลิตเซลล์ผิวใหม่ และปกป้องผิวจากรังสียูวี จะพลาดอาหารผิวดีๆ เช่นนี้ได้อย่างไรกัน

อะโวคาโด

อะโวคาโด เป็นอาหารที่มีไขมันดีสูง ซึ่งมีความสำคัญกับผิวพรรณเป็นอย่างมาก ช่วยให้ผิวมีความยืดหยุ่น และชุ่มชื้น ปกป้องผิวจากรังสียูวีที่จะทำให้เกิดริ้วรอยแห่งวัย โดยจากการศึกษาพบว่า เมื่อให้ผู้หญิง 700 คน ได้รับไขมันดีในปริมาณสูง โดยเฉพาะไขมันดีที่พบในอะโวคาโด พบว่ามีผลให้ผิวหนังยืดหยุ่นและสปริงตัวมากขึ้น นอกจากนี้อะโวคาโดยังเป็นแหล่งวิตามินอีและวิตามินซี ซึ่งช่วยต้านอนุมูลอิสระและเสริมสร้างคอลลาเจนให้กับผิว โดยในอะโวคาโด 100 กรัม หรือประมาณครึ่งลูก มีวิตามินอี 14% และวิตามินซี 11% ของปริมาณที่แนะนำต่อวัน เรียกได้ว่าอะโวคาโดเป็นอาหารบำรุงผิวชะลอวัยชั้นดีเลยทีเดียว

ถั่ววอลนัท

ถั่ววอลนัท อุดมไปด้วยกรดไขมันจำเป็นที่ร่างกายไม่สามารถสร้างได้เองอย่างโอเมก้า 3 และโอเมก้า 6 ในสัดส่วนที่เหมาะสม อีกทั้งยังเป็นแหล่งของวิตามินอี สังกะสี ซีลิเนียม และโปรตีน ซึ่งจะช่วยเป็นเกราะปกป้องผิว ต้านการอักเสบ ต้านอนุมูลอิสระ ทำให้ผิวมีสุขภาพที่ดี โดยในถั่ววอลนัท 28 กรัม จะมีสังกะสี 8% ของปริมาณที่แนะนำต่อวัน และมีโปรตีนอยู่ถึง 4-5 กรัม

มันเทศ

มันเทศ เป็นแหล่งของเบต้าแคโรทีนที่ร่างกายสามารถเปลี่ยนเป็นวิตามินเอได้ ซึ่งเป็นสารอาหารบำรุงผิวที่ช่วยปกป้องผิวจากแสงแดด ป้องกันผิวไหม้ ผิวแห้ง และเหี่ยวย่น เปรียบได้กับเป็นครีมกันแดดตามธรรมชาติก็ว่าได้ โดยมันเทศ 100 กรัม มีเบต้าแคโรทีนเพียงพอที่จะให้วิตามินเอมากกว่า 6 เท่า ของปริมาณที่แนะนำต่อวัน

พริกหยวกสีเหลือง หรือสีแดง

พริกหยวกสีเหลือง หรือสีแดง เป็นแหล่งของเบต้าแคโรทีนเช่นเดียวกับมันเทศ และยังเป็นหนึ่งในแหล่งวิตามินซีที่ดีที่สุด สำหรับการสร้างโปรตีนคอลลาเจนให้ผิวกระชับ และแข็งแรง โดยมีผลการวิจัยพบว่าผู้หญิงเมื่อได้รับวิตามินซีปริมาณมากจะช่วยลดความเสี่ยงจากผิวหนังเหี่ยวย่น และผิวแห้งตามอายุที่มากขึ้น ในพริกหยวกสีเหลือง หรือสีแดง 149 กรัม มีวิตามินซีถึง 211% และวิตามินเอ 156% ของปริมาณที่แนะนำต่อวัน เป็นอาหารบำรุงผิวหน้าให้แข็งแรง และกระชับได้ดีทีเดียว

บรอกโคลี

บรอกโคลี อุดมไปด้วยสารอาหารบำรุงผิวมากมาย ไม่ว่าจะเป็นวิตามินเอ วิตามินซี และสังกะสี แต่ที่พิเศษกว่าอาหารชนิดอื่นก็คือ ในบรอกโคลีจะมีสารที่เรียกว่า ซัลโฟราเฟน ซึ่งช่วยปกป้องผิวจากการถูกแดดเผา และอาจช่วยป้องกันมะเร็งผิวหนังบางชนิด โดยจากการศึกษาพบว่าช่วยลดจำนวนเซลล์ผิวที่ถูกฆ่าด้วยแสงยูวีได้มากถึง 29% พร้อมปกป้องผิวยาวนานถึง 48 ชั่วโมง

มะเขือเทศ

มะเขือเทศ หนึ่งในอาหารที่ทำให้ผิวสวยที่หลายคนรู้จักกันดี เนื่องจากในมะเขือเทศมีวิตามินซี และสารแคโรทีนอยด์ที่สำคัญทั้งหมดอย่างเบต้าแคโรทีน ลูทีน และไลโคปีน สารเหล่านี้จะช่วยปกป้องผิวจากแสงแดด และป้องกันการเกิดริ้วรอย หากรับประทานอาหารที่มีแคโรทีนอยด์สูง เช่น มะเขือเทศ คู่กับอาหารที่มีไขมัน เช่น น้ำมันมะกอก ไขมันจะช่วยเพิ่มการดูดซึมแคโรทีนอยด์ให้ร่างกายอีกด้วย

ถั่วเหลือง

ถั่วเหลือง เป็นหนึ่งในอาหารบำรุงผิวชะลอวัย เพราะนอกจากจะมีโปรตีนสูงแล้ว ยังมีสารไอโซฟลาโวน ซึ่งช่วยเพิ่มคอลลาเจน และความยืดหยุ่นของผิว ชะลอการเกิดริ้วรอย เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวไม่แห้งกร้าน และปกป้องผิวจากการถูกทำลายด้วยรังสียูวี โดยจากการศึกษาพบว่าการรับประทานไอโซฟลาโวนจากถั่วเหลืองทุกวันเป็นเวลา 8-12 สัปดาห์จะช่วยลดริ้วรอยเล็กๆ และเพิ่มความยืดหยุ่นของผิว

ชาเขียว

อาหารผิวอย่าง ชาเขียว มีสารต้านอนุมูลอิสระที่ทรงพลังที่เรียกว่า คาเทชิน ช่วยปกป้องผิวจากแสงแดด ลดรอยแดง เพิ่มความชุ่มชื้น และความยืดหยุ่นให้กับผิว โดยจากการศึกษาให้ผู้หญิง 60 คน ดื่มชาเขียวทุกวันเป็นเวลา 12 สัปดาห์ พบว่าสามารถลดรอยแดงจากแสงแดดได้ถึง 25% แต่การดื่มชาเขียวควรหลีกเลี่ยงการดื่มชาพร้อมกับนม เพราะจะไปลดประสิทธิภาพของสารต้านอนุมูลอิสระในชาเขียว

ดาร์กช็อกโกแลต

ดาร์กช็อกโกแลต เป็นอาหารบำรุงผิวพรรณที่หลายคนคาดไม่ถึง โดยในดาร์กช็อกโกแลตที่มีโกโก้อย่างน้อย 70% ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง จากการศึกษาพบว่าคนที่บริโภคผงโกโก้ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูงทุกวันเป็นเวลา 6-12 สัปดาห์ ผิวมีความแข็งแรง และชุ่มชื้นมากขึ้น และอีกผลการศึกษาพบว่าเมื่อรับประทานดาร์กช็อกโกแลต 20 กรัม ต่อวัน จะสามารถช่วยให้ผิวทนต่อรังสียูวีก่อนการถูกเผาไหม้ได้มากกว่า 2 เท่าเลยทีเดียว

องุ่นแดง

บนผิวขององุ่นแดงมีสารที่ชื่อว่า เรสเวอราทรอล ซึ่งผลการวิจัยในหลอดทดลองพบว่าอาจช่วยชะลอการผลิตสารอนุมูลอิสระที่เป็นอันตราย ซึ่งจะมาทำลายเซลล์ผิว และเกิดริ้วรอยแห่งวัย

มะขามป้อม

มะขามป้อม เป็นผลไม้ที่เป็นแหล่งของวิตามินซีเลยก็ว่าได้ โดยในมะขามป้อม 4 ลูก จะมีวิตามินซีถึง 100 กรัม ซึ่งช่วยต้านอนุมูลอิสระ เร่งการสร้างเซลล์ผิวใหม่ และชะลอวัยให้ดูอ่อนเยาว์

ริ้วรอยบนใบหน้าพบในบริเวณใดบ้าง

– ริ้วรอยบริเวณหน้าผากและหว่างคิ้ว มักเกิดจากการแสดงสีหน้าอารมณ์ การขมวดคิ้ว นอกจากนี้หน้าผากยังเป็นส่วนที่มักจะโดนแสงแดดบ่อย จึงทำให้เกิดริ้วรอยได้ง่าย

– ริ้วรอยรอบดวงตาและรอยตีนกา สามารถสังเกตเห็นริ้วรอยบริเวณนี้ได้ตั้งแต่อายุยังน้อยเนื่องจากผิวรอบดวงตามีความบอบบาง และริ้วรอยจะชัดมากขึ้นเมื่ออายุเพิ่มขึ้น

– ริ้วรอยบริเวณร่องแก้มและร่องน้ำหมาก มักเกิดจากแสดงสีหน้าหรือการยิ้ม โดยอาจจะพบร่องลึกตั้งแต่ข้างจมูกยาวลงมาจนถึงมุมปาก

– ริ้วรอยที่คอ เป็นบริเวณที่หลายคนมักจะมองข้าม แต่มักจะพบได้บ่อยเมื่ออายุมากขึ้น เช่น หนังคอเหี่ยว คอย่นเป็นชั้น มักเกิดผิวขาดความยืดหยุ่น ความหนาแน่นลดลง จึงเกิดการหย่อนคล้อยขึ้น

อาหารเร่งแก่ที่ทำลายผิว ลดคอลลาเจน เร่งสิว ผิวเหี่ยวก่อนวัย อร่อยแต่ต้องห้ามใจมีดังนี้

1. อาหารที่อุดมด้วยไขมัน : อาหารที่มีไขมันในปริมาณมาก เช่น อาหารทอด เนื้อติดมันต่างๆ ที่มีไขมันอิ่มตัวสูง เป็นอาหารที่ส่งผลให้ผิวของเราดูหมองคล้ำ โดยอาหารที่ใช้ความร้อนสูงในการทอด จะทำให้สารอาหารจำนวนมากถูกทำลาย เช่น วิตามินอี และกรดไขมันโอเมก้า 3 ที่ได้ชื่อว่าดีต่อสุขภาพ อีกทั้งอาหารเหล่านี้ยังมีไขมันทรานส์ที่มากระตุ้นอนุมูลอิสระ กินแล้วส่งผลให้ผิวหนังอักเสบได้

2. อาหารน้ำตาลสูง : อาหารรสหวาน อาหารที่มีค่าดัชนีน้ำตาลสูงต่างๆ เช่น ขนมอบ เบเกอรี่ ขนมหวาน ลูกกวาด ช็อกโกแลต รวมไปถึงคาร์โบไฮเดรตที่ผ่านการขัดสีอย่าง ขนมปังขาว เส้นพาสต้าต่างๆ ซึ่งอาหารที่มีค่าดัชนีน้ำตาลสูงนี้เป็นอาหารที่กินแล้วทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูง โดยจะส่งผลเสียต่อคอลลาเจนในชั้นผิวหนัง และทำให้เกิดสิว รวมถึงริ้วรอยก่อนวัย

3. อาหารใส่เกลือ : อาหารโซเดียมสูงรสชาติเค็ม เช่น มันฝรั่งทอดกรอบ น้ำจิ้ม หรือเครื่องปรุงรสต่างๆ เป็นอาหารที่ไม่ดีต่อผิว เนื่องจากเมื่อบริโภคเกลือหรือโซเดียมเข้าไปจะทำให้เกิดการกักเก็บน้ำในร่างกาย รวมถึงบริเวณใต้ผิวด้วยเช่นกัน ยิ่งถ้ากินอาหารเหล่านี้ตอนดึกก็อาจส่งผลให้หน้าบวมและใต้ตาบวมได้

4. อาหารแปรรูป : รวมถึงเนื้อแปรรูป เช่น ฮอทดอก เบคอนต่างๆ เป็นอาหารที่มีไขมันอิ่มตัวและไนเตรตในปริมาณที่สูง ซึ่งเมื่อกินมากๆ ก็อาจส่งผลให้เกิดการอักเสบในร่างกาย รวมถึงผิวหนังด้วยเช่นกัน ถือเป็นอีกหนึ่งอาหารทำลายผิวเลยก็ว่าได้ ใครอยากผิวสวยนานแนะนำให้หลีกเลี่ยงเลย

อาหารมีความสำคัญต่อสุขภาพกาย

อาหารมีความสำคัญต่อสุขภาพกาย และสุขภาพผิวเป็นอย่างมาก การเลือกอาหารที่ดี หรืออาหารบำรุงผิวที่มีสารอาหารเสริมสร้างคอลลาเจน สารต้านอนุมูลอิสระ สารปกป้องผิวจากรังสียูวี สารเพิ่มความยืดหยุ่น และชุ่มชื้นให้ผิว ก็จะยิ่งช่วยให้ผิวพรรณแข็งแรง อ่อนเยาว์ แลดูสุขภาพดีจากภายในสู่ภายนอกได้

หากกินอาหารบำรุงผิวแล้วรู้สึกว่ายังไม่เพียงพอ สามารถมาเติมอาหารผิวได้ที่ Lovely Eye & Skin Clinic นวัตกรรมการฟื้นฟูร่างกายจากความอ่อนเพลีย และพักผ่อนไม่เพียงพอ ด้วยการเติมวิตามิน Lovely IV สูตรเฉพาะที่รวบรวมประสิทธิภาพของวิตามิน เพื่อช่วยฟื้นฟูร่างกายที่ทำงานหนักให้กลับมาสดใส กระปรี้กระเปร่า บำรุงผิวพรรณ ลดปัญหาริ้วรอย ฝ้ากระ ช่วยล้างสารพิษในตับ และเส้นเลือด ยืดอายุความอ่อนเยาว์ของสุขภาพร่างกาย และสุขภาพผิวให้ยาวนานยิ่งขึ้น

 

แพทย์ประจำคลินิก

“ลานนาวดีคลินิก” คลินิกศัลยกรรมตกแต่งความงาม โดยทีมศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ การันตีจบเฉพาะทางด้าน ศัลยกรรมความงาม (Cosmetic Surgery) จากเกาหลี และเทคโนโลยีอันทันสมัยครบวงจร เพื่อให้คุณได้สวยตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าอย่างมั่นใจในความปลอดภัยและผลลัพธ์หลังเข้ารับบริการ

Line id: @lannawadee 
IG: lannawadee_clinic
FACEBOOK: Lannawadee Clinic