โบท็อกซ์ เป็นโปรตีนชนิดหนึ่งที่สกัดได้จากการสร้างของแบคทีเรีย “คลอสตริเดียม โบทูลินั่ม” (Clostridium botulinum) เชื้อโรคนี้หากได้รับมากเกินไปจะทำให้อาหารเป็นพิษหรือเกิดอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรง แต่ถ้าได้รับในปริมาณน้อยๆ อย่างพอเหมาะ จะช่วยให้กล้ามเนื้อคลายตัวอันเป็นผลดีกับวงการแพทย์ ซึ่งนำมาใช้ในการรักษาโรคตาเหล่ ตาเข และยังเป็นผลดีในวงการเสริมความงาม นั่นก็คือช่วยให้ริ้วรอยต่างๆ ลดลงและกระชับผิวให้ดีขึ้น
การฉีดโบท็อกซ์ คือการฉีดสารธรรมชาติในรูปของโปรตีนบริสุทธิ์ ไม่เป็นอันตราย และช่วยในการปรับแต่งรูปหน้าได้ เพราะตัวโบท๊อกซ์ จะช่วยให้กล้ามเนื้อในส่วนที่ถูกฉีดหดตัวลง MEDA
เมื่ออายุมากขึ้นกล้ามเนื้อบริเวณลำคอ (Platysma) จะทำงานมากขึ้นและดึงใบหน้าให้หย่อนคล้อยลง การใช้ โบท็อกซ์ จะช่วยทำให้กรอบใบหน้าชัดขึ้นและยกกระชับใบหน้าขึ้นได้ แต่จะได้ผลดีในรายที่สาเหตุของการหย่อนคล้อยมาจากกล้ามเนื้อดังกล่าว แต่ถ้าการหย่อนคล้อยเกิดจากไขมันส่วนเกิน หรือคอลลาเจนในชั้นผิวหนังเสื่อมสภาพอาจต้องใช้การรักษาวิธีอื่นร่วมด้วยจึงจะได้ผลชัดเจน ผลการรักษาอยู่ได้ 2 – 4 เดือน
โบท็อก หรือ โบทูลินัม ท็อกซิน เป็นสารที่มีกลไกการทำงานที่น่าสนใจในการรักษาริ้วรอย กระบวนการเริ่มต้นด้วยการฉีดโบท็อกเข้าสู่กล้ามเนื้อที่ต้องการ เมื่อเข้าสู่ร่างกาย โบท็อกจะทำหน้าที่ยับยั้งการปล่อยสารสื่อประสาทอะเซทิลโคลีน ซึ่งเป็นสารที่กระตุ้นให้กล้ามเนื้อหดตัว ผลลัพธ์คือกล้ามเนื้อไม่สามารถหดตัวได้ตามปกติ ทำให้เกิดการคลายตัว การคลายตัวของกล้ามเนื้อนี้ส่งผลให้ริ้วรอยบนใบหน้าลดลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งรอยย่นที่เกิดจากการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อซ้ำ ๆ
การฉีดโบท็อกโดยทั่วไป ถือว่ามีความปลอดภัยเมื่อทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ อย่างไรก็ตาม เช่นเดียวกับหัตถการทางการแพทย์อื่น ๆ ก็อาจมีความเสี่ยงและผลข้างเคียงได้ ผลข้างเคียงที่พบบ่อยมักเป็นเพียงอาการเล็กน้อยและหายได้เอง เช่น รอยช้ำ บวม หรือแดงบริเวณที่ฉีด ในบางกรณีอาจเกิดอาการปวดศีรษะหรือคล้ายไข้หวัดชั่วคราว
ส่วนผลข้างเคียงที่รุนแรงกว่านั้นพบได้น้อยมาก ซึ่งมักเกิดจากการฉีดที่ไม่ถูกต้อง ความเสี่ยงเหล่านี้สามารถลดลงได้ หากเลือกแพทย์ที่มีประสบการณ์และคลินิกที่มีการรับรองอย่างถูกกฎหมาย
โบท็อกซ์มีระยะเวลาเพียงชั่วคราวและจะค่อยๆสลายไปเอง ซึ่งระยะส่งผลดังกล่าวจะอยู่ที่ประมาณ 6-8 เดือนค่ะ
โบท็อกที่ผ่าน อย.ประเทศไทยในปัจจุบันมีหลากหลายยี่ห้อ ซึ่งแต่ละยี่ห้อจะแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับปัจจัย ดังต่อไปนี้
1. เลือกใช้โบท็อกแท้เท่านั้น
2. ก่อนฉีดควรให้แพทย์ผสมโบท็อกให้ดูต่อหน้าทุกครั้ง เพื่อให้มั่นใจว่าไม่ได้เจือจางน้ำเกลือมากเกินไป
3. ควรเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐานและหมอที่มีประสบการณ์
4. ไม่ควรฉีดโบท็อกเกิน 300 ยูนิต ต่อครั้ง
5. ระหว่างการฉีดควรประคบด้วยความเย็น เพื่อลดการไหลเวียนของเส้นเลือดรอบๆ
1. หลังฉีดโบท็อกควรรีบขยับเกร็งกล้ามเนื้อที่ฉีดทันที 1-2 ครั้ง
2. งดนอนราบ 3 ชม
3. หลีกเลี่ยงความร้อนทุกชนิดและกิจกรรมที่ทำให้หน้าแดง
4. งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด หมูกระทะ ปิ้งย่าง หรืออาหารที่ต้องนั่งหน้าเตาร้อนๆ
5. หากมีคอร์สทำหน้า นวดหน้า ควรงด 2 สัปดาห์หลังทำ
ดร.นพ.ธีรศักดิ์ แพทยาดิกุล
Dr.Teerasak Pattayadeekul
อาจารย์พิเศษ Dermatology and Regenerative medicine สำนักเวชศาสตรชะลอวัย ม.แม่ฟ้าหลวง / แพทย์ปริญญาเอก สาขา ผิวหนัง ศัลยกรรมผิวหนัง/เลเซอร์/ความงาม
พญ.ทวีพร ตรีประภากร
Dr.Thaweeporn Treepraphakorn
แพทย์สาขาศัลยกรรมความงาม/เลเซอร์/ปลูกผม
แพทย์ อเมริกันบอร์ดปลูกผม (ABHRS)
ลานนาวดีคลินิกมี 4 สาขาใกล้บ้านท่าน
📍สาขาเชียงใหม่ แยกดอนจั่น 574 ถนน เชียงใหม่-ลำปาง ต.ท่าศาลา อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ Tel.053-230257 /062-3103797 /062-3103798
📍สาขาเชียงใหม่ ลานนาวดีคลินิก มีโชคพลาซ่า 206/17 ต.ฟ้าฮ่าม อ.เมือง จ.เชียงใหม่
Tel.053-230258 /062-3103799 /062-3103800
📍สาขากรุงเทพ รังสิต
📍สาขาพัทยา 194/5และ194/6 หมู่9 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง , Chon Buri, Thailand, Chon Buri
เวลาทำการ
จันทร์ – ศุกร์ 10.00 – 19.30 น.
เสาร์ – อาทิตย์ 10.30 – 19.30 น.